19.00 น. พร้อมกันที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ  อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ E

สายการบินไทยสไมล์  โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินด้านสัมภาระและเอกสารให้กับท่าน

22.05 น. เหินฟ้าสู่ เมืองชัยปุระ โดยสายการบินไทยสไมล์ เที่ยวบินที่ WE 343  (ใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมง 40 นาที)

01.15 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติชัยปุระ เมืองชัยปุระ ประเทศอินเดีย หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองพร้อมรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก FOUR POINT BY SHERATON HOTEL 4*,  หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม    เมื่อสมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติชัยปุระ

10.25 น. เหินฟ้าสู่ เมืองจัยแซลเมียร์  โดยสายการบิน SpiceJet เที่ยวบินที่ SG2981 (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 25 นาที)

***(โหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องได้ท่านละ 1 ใบ โดยมีน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม)***

11.50 น. เดินทางถึงสนามบินจัยแซลเมียร์ เมืองจัยแซลเมียร์

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 

เมืองจัยแซลเมียร์ เป็นเมืองใหญ่มีผู้อาศัยราว 60,000 คน โดย 1 ใน 4 

ของประชากรอยู่ภายในป้อมทำมาค้าขายกับนักท่องเที่ยว บ้างเปิดโรงแรม

บ้างตั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก การตระเวนเดินเที่ยวในป้อม

สร้างความสำราญให้ทั้งนักช้อปและนักท่องเที่ยวผู้นิยมชมชอบวิถีชีวิตผู้คน 

แม้ในป้อมแห่งเมืองจัยแซลเมียร์ไม่มีวังมหาราชาสวยงาม แต่ย่านคหบดี HAVELI ก็งดงามไม่แพ้วังย่อมๆ

เย็น ออกเดินทางสู่ ทะเลทรายธาร์ ห่างจากตัวเมืองออกไปราว 42 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังใน จัยแซลเมียร์  เชิญท่านสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับการขี่อูฐสู่ทะเลทรายธาร์ เพื่อชม Sam Sand Dunes เนินทรายแห่งนี้ เป็นที่ซึ่งโค้งขอบฟ้าจรดกับผืนแผ่นทรายได้อย่างงดงามเกินบรรยาย 

สุดพิเศษ ชมการแสดงพื้นเมือง ท่ามกลางบรรยากาศฟ้าจรดทรายในธาร์  ครั้นได้เวลาพอสมควร จากนั้นเดินทางกลับ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ เข้าสู่โรงแรมที่พัก FORT RAJWADA HOTEL 4*, JAISALMER หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านชม เมืองจัยแซลเมียร์ (Jaisalmer) คือเมืองที่ได้รับสมญานามว่า “นครสีทอง” ตั้งอยู่บนที่ราบสูงกลางที่ราบทะเลทรายธาร์ มีกำแพงสูงใหญ่ดูโอฬาร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ทางตะวันตกสุดของแคว้นราชาสถาน ในอดีตเคยเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญระหว่างอินเดียกับตะวันออกกลาง นครสีทองแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นจากหินทรายสีเหลืองเป็นส่วนใหญ่ เมื่อยามต้องแสงอาทิตย์อัสดงที่ไล้ลงบนพื้นผิวของหินเหล่านี้ ก็จะปรากฏให้เห็นเป็นสีทองอร่ามตา และนี่คือที่มาของสมญา “นครสีทอง” ด้วยเหตุที่จัยแซลเมียร์เคยเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ ส่งผลให้พ่อค้าวาณิชย์ในตระกูลดังๆหลายๆคนร่ำรวยกันอย่างมหาศาลกลายเป็นอภิมหาเศรษฐี มีคฤหาสน์หลังใหญ่โตมโหฬาร ปัจจุบันคฤหาสน์เหล่านี้จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล 

นำท่านชม คฤหาสน์ของบรรดามหาเศรษฐี หรือเรียกว่า ฮาวาลี (Haveli) อาทิเช่น Patwon-Ki-Haveli, Nathmal-Ki-Haveli  คฤหาสน์เสนาบดี หรือ ฮาเวลีแบบจัยแซลเมียร์ จะสร้างได้โดยเจ้าของจะต้องมีทรัพย์สินเงินทองมากมายจึงทุ่มเงินสร้างคฤหาสน์ไว้อยู่อาศัย ซึ่งนอกจากความใหญ่โตแล้ว ฮาเวลีที่นี่จะมีลักษณะเฉพาะตัวไม่เหมือนเมืองอื่นๆ คือ เป็นคฤหาสน์ที่สร้างจากหินทรายสีเหลืองทอง ส่วนอาคารชั้นล่างยกสูงจากพื้นเพื่อป้องกันฝุ่นจากทะเลทรายทั้งมีระเบียงและซุ้มหน้าต่างยื่นออกมาล้อมรอบคฤหาสน์ตามสไตล์ของราชปุต สถาปัตยกรรมแบบนี้เรียกว่า “จาโรกัส” (Jharokhas) โดยมีวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างคือ เพื่อความสวยงามมากกว่าประโยชน์ใช้งานจริงๆ เพราะเน้นการแกะสลักลวดลายลงบนหินแบบละเอียดปราณีต ทั้งลายดอกไม้ ลายเส้นเรขาคณิต หรือสัตว์ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะนกยูงและช้าง ไม่เว้นแม้แต่ช่องลมเล็กๆยังแกะสลักเป็นลวดลายได้อย่างสวยงาม ทั้งนี้ การแกะช่องลมให้โปร่งนั้นก็เพื่อให้ลมผ่านเข้าออกช่วยระบายอากาศได้ดี

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 

บ่าย นำท่านเที่ยวชม ป้อมปราการจัยแซลเมียร์  (Jaisalmer Fort) ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางทะเลสาบ สร้างโดยมหาราวัลไจซัล (Maharawal Jaisal) สร้างขึ้นในปีค.ศ.1156 บนเขาตรีกูฏ ซึ่งเป็นผู้สถาปนาเมืองนี้ โดยป้อมนี้ถือว่าเป็นป้อมที่สร้างลำดับที่ 2 ของแคว้นราชาสถาน รอบๆ ป้อมปราการจัยแซลเมียร์มีหอรบถึง 99 หอเพราะมีศัตรูหลักของเมืองนี้คือ บรรดาราชปุตของนครต่างๆ รวมถึงจักรพรรดิอัคบาร์แห่งราชวงศ์โมกุล ปัจจุบันป้อมแห่งนี้ถือว่าเป็นป้อมเดียวในประเทศอินเดียที่มีผู้คนอาศัยอยู่ด้านบน  นำชม ทะเลสาบกาดิ ซาการ์ (Gadi Sagar Lake) เป็นทะเลสาบเก่าแก่ประจำเมืองจัยแซลเมียร์ สร้างโดยมหาราชาวาลกาดซี ราวปีค.ศ.1367 ซึ่งในอดีตทะเลสาบนี้เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของเมือง รอบๆทะเลสาบจะมีทั้งวัดและอนุสรณ์สถานเล็กๆ สีเหลืองทองอร่าม ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่จัดงานประเพณี “กานกัวร์” (Gangaur) ซึ่งจัดขึ้นในเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี 

โดยมีมหาราวัลของจัยแซลเมียร์เป็นผู้นำทำพิธีด้วยตนเอง ประเพณีนี้คือ 

หญิงโสดจะโยนดอกไม้ลงไปในทะเลสาบและอธิษฐานขอคู่ชีวิตที่ดีๆนั่นเอง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ  เข้าสู่โรงแรมที่พัก FORT RAJWADA HOTEL 4*, JAISALMER หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

หลังอาหารเช้า เริ่มต้นออกเดินทางสู่ เมืองจ๊อดปูร์  (ระยะทางประมาณ 280 กิโลเมตร ใช้เวลาราว 5-6 ชั่วโมง) เมืองโรแมนติกแห่งนครสีฟ้า  “จ๊อดปูร์” (Jodhpur) หรือ โยธะปุระ นครนักรบที่ทั่วทั้งเมืองเป็นสีฟ้าราวกับน้ำทะเล เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในแคว้นราชาสถาน ถูกตั้งขึ้นเป็นราชธานี โดย Rao Jodha แห่งราชวงศ์ Rathor 

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 

นำท่านชมจุดไฮไลท์ที่น่าสนใจของเมืองนี้คือ Mehrangarh Fort (ขึ้นโดยลิฟท์) เป็น 1 ใน 4 พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ซึ่งเป็นป้อมที่มีขนาดใหญ่อยู่บนเนินเขาสูงขึ้นไปประมาณ 400 เมตรเหนือเมืองจ๊อดปูร์ ทำให้มองเห็นเด่นเป็นสง่าไม่ว่าจะมองจากจุดไหนๆ ภายในเมือง ป้อมแห่งนี้เป็นทั้งป้อมปราการและพระราชวังของเจ้าผู้ครองนคร ไม่ไกลกันนัก ท่านจะได้ชมสิ่งปลูกสร้างสีขาวสะอาดตา “Jaswant Thada” ก่อสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง และเป็นที่ฝังศพของมหาราชา Jaswant Singh II และสมาชิกคนอื่นๆในราชวงศ์  

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ เข้าสู่โรงแรมที่พัก FAIRFIELD BY MARRIOTT JODHPUR HOTEL 4*, หรือเทียบเท่า

06.00 น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

07.00 น. ออกเดินทางสู่ รานัคปูร์ (Ranakpur) (โดยมีระยะทางราว 170 กิโลเมตร ใช้เวลา

เดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง) 

นำท่านชม วิหารเชน (Ranakpur Jain Temple) เป็นวิหารของศาสนาเชน สร้างโดยคหบดี Dharna Sah เมื่อเกือบ 500 ปีก่อน ภายในวิหารประกอบด้วยห้องโถงกว่า 24 ห้อง โดมทั้งหมด 80 โดมและเสาถึง 1,144 ต้น เสาแต่ละต้นถูกแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามมาก   

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 

หลังอาหารกลางวัน ออกเดินทางสู่เมืองอุไดปูร์  (โดยมีระยะทางราว 90 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 2 ชั่วโมง)

เมืองอุไดปูร์ (Udaipur) เป็นราชธานีแห่งที่ 2 ของอาณาจักร Mewar ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแคว้นราชาสถาน เป็นเมืองที่โอบล้อมด้วยภูเขาและทะเลสาบมากมาย ทำให้เมืองอุไดปูร์มีความเขียวชะอุ่มกว่าเมืองอื่นในแคว้นนี้ เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อด้านมนต์เสน่ห์และความโรแมนติกมากอีกเมืองหนึ่งเพราะเพียบพร้อมไปด้วยความงามของทะเลสาบ พระราชวังและน้ำพุที่สวยงาม โดยเฉพาะยามเย็นบรรยากาศริมทะเลสาบพิโชล่าโดยมีโรงแรม Lake palace สีขาวกลางน้ำและ City palace ตัดกับแสงอาทิตย์ยามอัสดงพร้อมแนวเทือกเขาสลับซับซ้อนกัน เมืองอุไดปูร์ถูกสถาปนาในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 และตั้งชื่อตามมหารานา อุได ซิงห์ที่ 2 (Maharana Udai Singh II) ผู้สถาปนาซึ่งสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ซิโซเดียที่ครองอาณาจักรเมวาร์ (Mewar) มาอย่างต่อเนื่องหลายร้อยปี และที่สำคัญราชวงศ์นี้ นับว่ามีความแข็งแกร่งมากที่สุดในบรรดากลุ่มเจ้าราชปุตด้วยกันไม่ยอมก้มหัวให้กับผู้รุกรานต่างชาติ และยืนหยัดต่อสู้กับจักรวรรดิโมกุลได้นานที่สุด อาณาจักรเมวาร์เคยอยู่ที่เมือง Chittor ห่างจากเมืองอุไดปูร์ไป 115 กิโมเมตร 

แต่มหารานาอุได ซิงห์ที่ 2 ตัดสินใจทิ้งเมือง Chittor ให้กับกองทัพของ

พระเจ้าอัคบาร์ แล้วจึงสร้างเมืองอุไดปูร์เป็นราชธานี

ขึ้นมาใหม่แทน เนื่องจากการต่อสู้กับกองทัพของพระเจ้าอัคบาร์หลาย

ครั้งจนสามารถครองความเป็นรัฐอิสระมาได้ยาวนาน แต่ในปีค.ศ.1736 

ก็พลาดท่าให้กับอาณาจักรมาราทัส ก่อนตัดสินใจรวมเข้ากับอินเดียในที่สุด

ช่วงเย็นนำท่านล่องเรือบนทะเลสาบ Pichola Lake ชมทิวทัศน์รอบทะเลสาบที่มีฉากเป็นมหาราชวังอย่างเช่น Lake Palace ในยามเย็นแสงอาทิตย์กระทบวังที่ทำด้วยหินอ่อนจับแสงเป็นสีทองและสะท้อนให้เกิดภาพเงาในทะเลสาบอย่าง

สวยงาม ทะเลสาบแห่งนี้กว้าง 3 กิโลเมตร ยาว 4 กิโลเมตร มีเกาะอยู่ 2 แห่งคือ Jag Niwas และ Jag Mandir โดยมีโรงแรม Lake Palace ตั้งอยู่บนเกาะ Jag Niwas ในอดีตเป็นพระราชวังฤดูร้อนที่สร้างขึ้นโดย Maharana Jagat Singh II เมื่อปีค.ศ.1743 แต่ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมระดับห้าดาว การล่องเรือทะเลสาบจะใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที เรือจะล่องไปรอบๆทะเลสาบ ท่านจะสามารถมองเห็นพระราชวังซิตี้พาเลซและโรงแรมต่างๆบริเวณริมน้ำ รวมถึงอาคารบ้านเรือนอย่างเพลิดเพลิน

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ   เข้าสู่โรงแรมที่พัก THE LAKEND HOTEL 4*, หรือเทียบเท่า 

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านชม City Palace หรือพระราชวังฤดูหนาว ซึ่งส่วนหนึ่งมีการดัดแปลงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยหินแกรนิตและหินอ่อน ภายในประดับประดาด้วยกระจกและแก้ว

หลากสี นับเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นราชาสถาน ปัจจุบันบางส่วนยังคงเป็นที่ประทับของราชตระกูลและมีการจัดแสดงวัตถุโบราณที่มีค่ามากมายให้ผู้คนเข้าชม 

นำท่านชม Fateh Prakash Palace (รวมค่าเข้าชมภายใน Fateh Prakash Palace)  ท่านจะได้เห็นความสวยงามของเฟอร์นิเจอร์คริสตัล และเครื่องใช้คริสตัล  ซึ่งมหาราชาองค์หนึ่งอยากได้เฟอร์นิเจอร์คริสตัลมาประดับวัง แต่ไม่ชอบเครื่องเรือนสไตล์ยุโรป จึงบัญชาให้กรมช่างในราชอาณาจักรทำเครื่องเรือนต้นแบบจากไม้แกะสลักลวดลายสวยงามก่อนส่งไปที่อังกฤษเพื่อให้บริษัทคริสตัลทำเฟอร์นิเจอร์ตามแบบนั้น เสร็จแล้วจึงค่อยส่งกลับมาประดับที่วัง  

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 

บ่าย นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองชัยปุระ  (ระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 7 ชั่วโมง) 

เมืองชัยปุระ (Jaipur)  “นครสีชมพู” เป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแคว้นราชาสถาน จัดได้ว่าเป็นเมืองที่มีการออกแบบผังเมืองได้ดีที่สุดเมืองหนึ่ง สิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ได้รับการทาสีให้เป็นสีชมพู 

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ เข้าสู่โรงแรมที่พัก FOUR POINT BY SHERATON – 4*  หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเยี่ยมชมความงามของมหานครสีชมพู โดยเริ่มต้นกันที่ ป้อมปราการ   เอเมอร์ฟอร์ท ด้วยกิจกรรมขี่ช้างขึ้นชม Amer Fort ซึ่งเดิมเคยเป็นราชธานีของเมืองชัยปุระ สร้างอยู่บนเนินเขาสูงตรงตำแหน่งเดิมที่เคยเป็นป้อมปราการเก่าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11 มาก่อน โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี        ค.ศ.1592 ในสมัยของมหาราชา Man Singh I ป้อมแห่งนี้ได้รับการก่อสร้างต่อเติมอีกในสมัยของมหาราชา Jai Singh I ก่อนที่จะย้ายราชธานีไปยังพื้นราบของเมืองจัยปูร์ในปัจจุบัน ป้อมปราการแห่งนี้เป็นต้นแบบที่ดีของสถาปัตยกรรมแบบ Rajput ซึ่งสร้างอยู่บนเนินเขา โดยมีทะเลสาบ Maota อยู่เบื้องล่าง แวดล้อมด้วยชุมชนของเขตเมืองเก่า ทัศนียภาพเมื่อมองลงมาจากป้อมเป็นสิ่งที่น่าประทับใจมาก 

จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปที่ พระราชวังสายลม (Hawa Mahal) 

สิ่งปลูกสร้างที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นที่สุดในนครสีชมพูแห่งนี้ 

จนเหมือนจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไปเสียแล้วทั้งๆที่ในความเป็นจริง 

สิ่งปลูกสร้างชิ้นนี้ก็มิได้มีประโยชน์อื่นใดนอกจากเป็นเพียงซุ้มหน้าต่าง953 

ช่องให้บรรดานางในทั้งหลายภายในฮาเร็มได้มีโอกาสแอบยลโลกภายนอกเท่านั้น   

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 

บ่าย     ชม พิพิธภัณฑ์ซิตี้พาเลซ (City Palace) อดีตเป็นที่พำนักหลักของครอบครัวผู้ปกครองเมืองและเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในด้านสถาปัตยกรรมชั้นยอด ชมศิลปวัฒนธรรมและงานหัตถกรรมของแคว้นราชาสถานในอดีตมหาราชา ไสว ชัยสิงห์ที่ได้ย้ายเมืองหลวงจากพระราชวังเอเมอร์ลงมายังเมืองชัยปุระและได้สร้างพระราชวังขึ้นมาใหม่ที่ใจกลางเมืองในปัจจุบันเรียกว่า CITY PALACE ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ของมหาราชาแห่งเมืองชัยปุระ  

จากนั้นนำท่านชม หอดูดาว (Jantar Mantar) สร้างขึ้นในปีค.ศ.1716 ตามคำบัญชาของมหาราชาชัยสิงห์ที่ 2 นอกจากทรงสร้าง City Palace แล้ว พระองค์ยังทรงเป็นกษัตริย์นักดาราศาสตร์ จึงทรงสร้างหอดูดาวและอุปกรณ์ ดาราศาสตร์ขนาดใหญ่ไว้มากมาย เรียกว่า Jantar Mantar ไม่ใช่แค่ 1 แห่งแต่มีถึง 5 แห่ง อีก 4 แห่งอยู่ที่ Delhi, Ujjain, Varanasi และ Matura แต่ที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดอยู่ที่นี่ นาฬิกาแดด ที่ยังเที่ยงตรงอยู่ บอกเวลาที่เมือง Jaipur โดยเฉพาะ ซึ่งจะไม่ตรงกับเวลามาตรฐานของอินเดีย   

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 

เมื่อได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติชัยปุระ เพื่อเตรียมตัวเช็คอินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศในการเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

02.15 น.    เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทยสไมล์ เที่ยวบินที่ WE 344  (ใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมง 30 นาที)

08.15 น. ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ